รูเล็ต เทคนิคสอนทำเงิน เล่นแบบทำเงินได้จริง 2021

รูเล็ต คืออะไร? วิธีการเล่น เล่นให้ได้เงิน แทงแบบไหนมีโอกาสชนะมากกว่า เพิ่มอัตราการทำกำไรในการเล่นมากขึ้น รวยไว

รูเล็ต

รูเล็ต คืออะไร 

รูเล็ต  (Roulette) คือเกมพนันชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1842 ในอดีตนักพนันสามารถเข้าไปเล่นได้ตามบ่อนคาสิโนทั่วไป แต่สำหรับปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้เราสามารถเล่นเกมนี้ได้ผ่านเว็บเดิมพันออนไลน์ หรือที่เรารู้จักในนาม ออนไลน์ โดยเกมนี้มีจุดเด่นคือ จะใช้วงล้อที่ประกอบไปด้วยตัวเลขตั้งแต่ 0 – 36 ที่สลับตำแหน่งสลับสีกันอยู่ มาหมุนในการออกรางวัล ซึ่งจะมีลูกเหล็กเล็กๆ กลิ้งไปมาตามแรงหมุน หากไปหยุดหรือตกลงในช่องตัวเลขใด ผู้เล่นที่เสี่ยงทายถูกก็ได้รับรางวัลไป

วิธีการเล่น รูเล็ต และ รูปแบบการวางเดิมพัน มีอะไรบ้าง?

วิธีการเดิมพัน ไม่ยาก แม้คนไม่เคยเล่นก็เข้าใจได้ง่าย ซึ่งมีด้วยกันถึง 10 รูปแบบ ได้แก่

1. เดิมพันแบบตรง หรือ เต็งเลข คือ การเลือกวาง เดิมพันโดยเฉพาะเลขนั้นๆ ในตัวอย่างจะเห็นว่ามีการ วางชิปเดิมพันที่ช่องหมายเลข 0 , 8 , 21 , 28 และ 36 ซึ่งในช่องมีทั้งหมด 37 ตัวเลข โดยหากผู้เล่นแทงชนะ จะได้รับอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 ต่อ 35 หรือพูดง่ายๆ ว่า เดิมพัน 1 บาท ได้ 35 บาท (ไม่รวมทุน)

2. เดิมพันแบบแบ่ง คือ การเลือกจับคู่ตัวเลขที่อยู่ติดกัน จะเป็นคู่แนวนอน หรือ แนวตั้ง ก็ได้ หรือจะวางเดิมพันแบบ 01 , 02 , 03 ก็ได้เช่นกัน โดยคลิกตรงเส้นระหว่าง 2 ตัวเลข ได้เลย อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 17 (ไม่รวมทุน)

3. เดิมพันแบบสตรีท คือ การเลือกเดิมพันตัวเลข 3 ตัว ในแนวตั้ง หรือจะเดิมพันแบบ 012 , 023 ก็ได้เช่นกัน (ตำแหน่งที่กดเดิมพัน ตามภาพประกอบด้านล่าง) อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 11 (ไม่รวมทุน)

4. เดิมพันแบบมุม คือ เป็นการแทงโต๊ด 4 ตัว โดยวางชิปตรงตำแหน่งมุม ทับทั้ง 4 ตัวเลข หรือจะลงเดิมพันเลข 0123 ก็สามารถวางชิปตามตำแหน่งดังภาพ ได้เลย โดยมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 8 (ไม่รวมทุน)  

5. เดิมพันแบบไลน์ คือ การเดิมพันที่มีลักษณะคล้ายกับแบบสตรีท แต่เป็น 2 สตรีท หรือการแทงโต๊ด 6 ตัวเลข (โดยวางชิปที่ตำแหน่งกึ่งกลางด้านล่างของตัวเลขตามภาพ) มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 5 (ไม่รวมทุน)

6. เดิมพันแบบคอลัมน์ คือ จะมีให้เลือกวางชิปอยู่ 3 ตัวเลือก ท้ายคอลัมน์ทั้งหมด 3 แถว ได้แก่ 2 to 1 (1st) , 2 to 1 (2nd) ,2 to 1 (3rd)  ซึ่งการเลือกจะมีผลต่อเลข 12 ตัวในคอลัมน์ และอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 2 (ไม่รวมทุน)

7. เดิมพันแบบโหล คือ การแทงเลขชุด 12 ตัว มีทั้งหมด 3 ชุดตัวเลข ให้เลือกวางเดิมพัน ได้แก่ 1st 12 (หมายเลข 1 – 12) , 2nd 12 (หมายเลข 13 – 24) และ 3rd 12 (หมายเลข 25 – 36) หากชนะเดิมพันในแบบนี้ จะได้อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 2 (ไม่รวมทุน)

8. เดิมพันแบบสี (Colors) เป็นการเลือกวางเดิมพันระหว่าง 2 สี คือ สีดำ และ สีแดง ซึ่งถือเป็นการเลือกเดิมพันที่มีความเสี่ยงน้อยมาก ฉะนั้นอัตราการจ่ายที่ได้รับก็น้อยตามไปด้วย อยู่ที่ 1 ต่อ 1

9. เดิมพันแบบ คู่ – คี่ คือ การเลือกเดิมพันว่าตานั้นๆ จะออกเลขคู่ หรือ เลขคี่ ซึ่งบางโต๊ะออนไลน์ ก็ใช้คำว่า คู่ , คี่ แบบตรงๆ บนกระดาน หรือบางโต๊ะก็ใช้คำว่า Even ที่แปลว่า (คู่) และ Odd แปลว่า (คี่) โดยอัตราการจ่ายก็ยังอยู่ที่ 1 ต่อ 1 นั่นเอง

10. เดิมพันแบบ สูง – ต่ำ คือ เป็นการเลือกแทงตัวเลขในโซนที่ต่ำ กับ สูง โดยเลขต่ำอยู่ที่ 1 – 18 และ เลขสูงอยู่ที่ 19 – 36 ซึ่งอัตราการจ่ายก็อยู่ที่ 1 ต่อ 1 เช่นกันนั่นเอง

แทง รูเล็ต แบบไหนมีโอกาสชนะมากกว่ากัน

อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นเกมที่มีรูปแบบการวางเดิมพันเยอะมาก และแต่ละแบบก็มีอัตราต่อรองอ๊อดและความน่าจะเป็นที่จะมีโอกาสชนะแตกต่างกันไป ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้การแทงแบบ Inside Bets ไม่ว่าจะเป็นแบบยุโรปหรือแบบอเมริกัน แม้จะมีความเสี่ยงสูงแต่โอกาสชนะจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนหมายเลขที่เราแทงค่อมไว้ ยกตัวอย่างเช่น แทงเต็งเลขโอกาสชนะ 1/37 แทงค่อมเลข 2 ตัว ก็จะเพิ่มเป็น 2/37 เป็นต้น 

สำหรับสัดส่วนเงินที่เราจะได้รับคืน หากเป็นแบบยุโรปจะอยู่ที่ 97.3% ทุกรูปแบบการวางเดิมพัน แต่ถ้าเป็นแบบอเมริกาจะได้น้อยกว่าคือ 94.74% และต่ำสุดคือ 92.1% สำหรับการแทงแบบค่อมเลข 5 ตัว ที่มีอัตราจ่าย 7 : 1การแทงรูเล็ตแบบ Outside Bets ถือได้ว่าเป็นรูปแบบการแทง รูเล็ต ที่มีความเสี่ยงต่ำทั้งในแบบยุโรปและอเมริกัน โดยการแทงแบบวงนอกผู้เล่นจะมีโอกาสชนะกันมากถึงครึ่งต่อครึ่ง นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนเงินที่จะได้รับคืนมากถึง 97.3% ในแบบยุโรป และ 94.74% ในแบบอเมริกาอีกด้วย

สนใจเดิมพันสล็อตออนไลน์ได้ที่นี่ : รูเล็ตออนไลน์

เว็บไซต์ในเครีอของเรา :